วิธีทำให้แบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คอยู่ได้นานที่สุดและการใช้แบตเตอรี่ที่ถูกต้อง


หลายท่านเวลาที่ต้องการนำโน๊ตบุ๊ค ไปใช้ต่างสถานที่ และอยากให้แบตเตอรี่อยู่ได้นานๆ เช่น ไปนั่งพิมพ์งานที่ร้านกาแฟ หรือ แม้กระทั่งเวลาไปเรียน ซึ่งแบตเตอรี่จะต้องสามารถอยู่ได้ 3 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ โดยการตั้งค่านั้นจะเน้นไปทาง Maximize Battery Life, Low Power, Power Saving

โดยการตั้งค่าแบบนี้จะเหมาะสำหรับผู้ใช้งาน เช่น ทำงานเอกสาร , เล่นอินเตอร์เน็ตและเรียน หรือสำหรับท่านที่เสียบ Adapter แต่ต้องเปิดคอมทิ้งไว้ เช่น โหลดบิท ก็สามารถใช้ได้เหมือนกัน จะช่วยให้ให้เครื่องทำงานไม่หนักและไม่ร้อน
ขั้นตอนการตั้งค่ามีดังนี้
011. คลิ๊กที่รูปแบตเตอรี่ที่มุมล่างขวาของหน้าขอ จากนั้นเลือก Adjust Screen Bringhtnress
image2. จากนั้นเลือกเป็น Power Saver > Change Plan Settings
image3. ตั้งค่าตามภาพด้านบนเลยครับ ส่วนความสว่างก็ตามที่เราต้องการเลย (สำหรับท่านที่เปิดทิ้งไว้เฉยๆ แนะนำให้ปรับเป็นซ้ายสุด) จากนั้นกด Change Advanced Power Settings
image4. ตั้งค่าในส่วนของ
PCI Express > Link State Power Manangemet ตั้งค่า On Bettery , Plugged in ให้เป็นMaximum Power Savings 
Processor power management > Maximum processor state ตั้งเป็น 50% สำหรับใช้งานเบาๆ แต่ถ้าหากเปิดไว้เฉยๆให้ตั้งเป็น 30% ครับ
image
5. เลื่อนลงมาก็จะเป็นในส่วนของ การ์ดจอ คือ
Switchable Dynamic Graphics > Global settings ตั้งค่า On Bettery , Plugged in ให้เป็นMaximum Power Savings 
ATI Graphic Power Settings
หมายเหตุ : ในส่วนนี้เครื่องที่ผมใช้เป็น AMD+ATI ซึ่งไม่แน่ใจว่าทาง Intel+Nvidia จะเป็นเหมือนกันไหม หากมีก็หรือคล้ายกันก็ให้ปรับเป็นแบบ Power Savings
การตั้งค่านี้อาจจะช่วยได้ไม่เยอะ แต่ที่จะเห็นได้ชัดคือการใช้งานของเรา ถ้าใช้โปรแกรมที่ใช้ทรัพยากรเยอะก็ทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว ถ้าใช้งานประหยัดแบต
 เมื่อได้แบตเตอร์รี่มาใหม่ (กรณีซื้อ Notebook มาใหม่ๆ)
1. ควรชาร์ตโดยการปิดเครื่อง Notebook ไว้ประมาณ 8-10 ชั่วโมง ทำให้ได้แบบนี้ประมาณ 3 ครั้ง โดยไม่จำเป็นต้อง 3 ครั้งติดต่อกัน
2. อย่าใช้แบตเตอรี่จนหมด หรือเหลือเปอร์เซ็นต์น้อยมากๆ ต่ำสุดควรอยู่ที่ 15%-20%
 การใช้แบตเตอรี่ที่ถูกต้อง
1. ถ้าต้องการใช้ Notebook เป็นเวลานานๆ แนะนำการเสียบ Adaptor ที่ชาร์ตไฟไว้ด้วยตลอดเวลา สำหรับ Notebook รุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันส่วนใหญ่มีระบบตัดไฟอัตโนมัตือยู่แล้วเมื่อชาร์ตประจุเต็ม ที่สำคัญคือ ห้ามถอดแบตโดยเด็ดขาด
2. การชาร์ตแบตเตอรี่สามารถ ชาร์จได้ตลอดเวลา เมื่อไหร่ก็ได้ อารมณ์คล้ายชาร์จไฟเข้ากับมือถือ 
3. ในรอบประมาณ 1 เดือน หรือใช้ไปประมาณ 30 ครั้ง ควรเคลียร์ประจุแบตเตอรี่ โดยการใช้งานจนหมด หรือเกือบหมดมากๆ แล้วค่อยปิดเครื่อง หลังจากนั้นจึงทำการชาร์ตตามปกติ


ที่มา - hitech.sanook.com


Previous
Next Post »