Wireless router เป็น อุปกรณ์ hardware ในระบบบ wireless network ที่สำคัญเป็นอย่างมาก ดังนั้น การเลือก ซื้อ wireless router มาใช้งาน ควรจะมีการพิจารณา และเลือกซื้อ รุ่นที่ เหมาะสมกับการใช้งานของคุณมากที่สุด ให้คุ้มค่ากับเงินที่ต้องเสียไป และเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของสถานที่ใช้งาน wireless ของคุณด้วยครับ หากคุณ ซื้อ wireless router ที่ดีมาใช้ คุณก็จะได้ เครือข่าย wireless ที่แรง และเร็ว ทำให้การใช้ internet ผ่าน สัญญาณ wireless มีความรวดเร็วไปด้วย ในทางกลับกัน หากคุณไม่ พิจารณา เลือก ซื้อ wireless router ที่เหมาะสม/อย่างถูกวิธี ก็อาจจะได้ เครือข่าย wireless ที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไปด้วยครับ
ในบทความนี้ จะขอ อธิบาย ถึงวิธี การเลือกซื้อ wireless router มาใช้งาน แบบให้เข้าใจง่ายมากที่สุด ถึงแม้ว่าคุณจะไม่มีความรู้ทางด้านนี้มากนัก ก็น่าจะพอรู้วิธี ในการไปเลือกซื้อ router มาใช้งาน ได้ครับ
วิธี เลือก ซื้อ wireless router
ก่อนจะแนะนำเกี่ยวกับวิธี เลือกซื้อ wireless router ขอทำความเข้าใจก่อนว่า router มี อยู่ 4 ประเภทหลักๆ คือ
1. router ธรรมดา คือ อุปกรณ์ router ที่สามารถใช้ในระบบ Lan network ได้ โดยอุปกรณ์เชื่อมต่อที่ใช้ คือ สายแลน
2. Router modem เป็นได้ทั้ง router ในการแจก IP และรับสัญญาณ internet ที่มาจากสายโทรศัพท์
3. Wireless router คือ อุปกรณ์ router ที่ปล่อยสัญญาณ wireless และมักมี port lan มาด้วย เพื่อปล่อยสัญญาณทางสายแลน หรือรับสัญญาณ internet มาจากสายแลน
4. Wireless modem router มีขีดความสามารถเพิ่มเติมมาจาก wireless router คือการรับสัญญาณ internet มาจากสายโทรศัพท์
ดังนั้น ถ้าหากคุณต้องการ หาซื้อ wireless router เพื่อไปทดแทน modem router ที่ผู้ให้บริการให้มา คุณจำเป็นต้องเลือก ซื้อ wireless modem router เท่านั้น แต่ถ้าหากต้องการขยายสัญญาณ modem router ตัวเดิม ก็สามารถซื้อแค่ wireless router มาใช้งานได้ครับ
ข้อพิจารณาก่อนเลือก ซื้อ wireless router (Wireless modem router)
1. ความเร็ว wireless router
ความเร็วในการ รับ-ส่ง ข้อมูล ผ่านเครือข่าย wireless กำหนดเป็น Mbps (เมกะไบต์ต่อวินาที) ความเร็วสูงสุด ที่ wireless router สามารถ รับ-ส่ง ข้อมูลได้ในปัจจุบัน คือ 300 Mbps (Lan เร็ว 100 Mbps) ซึ่งเป็น router ที่ทำงานบนโปรโตคอล IEEE 802.11n หรือเรียกกันสั้นว่า “Wireless n”
โปรโตคอลก่อนหน้านี้ และเรายังคงใช้งานกันอยู่มาก คือ Wireless G (802.11G) ซึ่ง รับ-ส่ง ข้อมูลได้เร็วสุด แค่ 54 Mbps
คุณจะสามารถตรวจสอบได้ว่า wireless router ของคุณทำงานบน protocol ไหน และรองรับความเร็วสูงสุด เท่าไร ได้บริเวณข้างกล่อง อุปกรณ์ router ซึ่งจะมี ระบุไว้ให้อยู่แล้วครับ
ดังนั้น หากคุณต้องการ ระบบ wireless network ที่เร็ว และแรง คุณจำเป็นต้องเลือกซื้อ wireless router ที่สนับสนุนการทำงานบนโปรโตคอล IEEE 802.11N แต่ คุณเพื่อให้สามารถใช้ความเร็วสูงสุดได้ คุณจำเป็นต้องมี อุปกรณ์รับสัญญาณ wireless n ด้วย หาก คอมพิวเตอร์ notebook เป็น wireless a/b/g คุณก็จะได้ใช้ ความเร็วสูงสุด แค่ 54 Mbps ถึงแม้ว่า router จะมีความเร็วถึง 300 Mbps ก็ตาม
2. Dual Band มีประโยชน์อย่างไร
ปัจจุบัน มี wireless router n หลายรุ่นที่ ทำงานได้ แบบ Dual Band คือ ทำงานได้ทั้งบนย่านความถี่ 2.4 Ghz และ 5 Ghz ประโยชน์ของมัน ก็คือ หากคุณยังคงมี client ที่เป็น wireless G อยู่ ก็ยังคงทำงานได้บนย่านความถี่ 2.4 Ghz ส่วน อุปกรณ์ที่รองรับการทำงานบนย่านความถี่ 5 Ghz ก็จะเชื่อมต่อในย่านความถี่นั้น
แต่หากเลือกซื้อแบบ Dual Band ก็คงต้องทำใจหน่อย เพราะ ราคาค่อนข้างจะแพงกว่า single band 2-3 เท่า ตัวเลยครับ
3. การ support การใช้งานกับระบบเดิม
ควรพิจารณา ด้วยว่า ที่ทำงาน หรือที่บ้านคุณ ทุกคนใช้ wireless card ประเภทไหน อยู่ หากคุณซื้อ wireless router n ที่มีราคาแพงมา แต่คนส่วนใหญ่ ไม่สามารถใช้งาน wireless n ได้ ก็คงไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก สู้ที่จะซื้อ wireless G ที่ดีๆ แรงๆ มาใช้งาน ก็น่าจะดีกว่า
นอกจากว่า คุณจะมีแผนที่จะอัพเกรด ระบบ wireless network ใน อนาคต ด้วย
4. เรื่องอื่นๆ ที่ควรพิจารณา ด้วย
- หากคุณวางแผนที่จะใช้งาน wireless router กับเครือข่ายขนาดใหญ่ หรือปล่อยสัญญาณให้ไปได้ไกลๆ ควรเลือก router ที่มี เสา wireless ติดมาด้วย เพื่อความสะดวกในการ เปลี่ยนเสา ในอนาคต
- ยี่ห้อ wireless router ก็มีส่วนสำคัญ จากการทดสอบที่ผ่านมา wireless router ยี่ห้อ ดีๆ เช่น Linksys, D-Link, NetGear, Belkin มักจะมีปัญหาน้อยกว่า router ยี่ห้ออื่นๆ
- การันตี ควรจะเลือก wireless router ที่การันตีการใช้งานอย่างต่ำ 1 ปี ครับ
5. หากสามารถทดสอบได้ ควรทดสอบใช้งานดูก่อน เพื่อวัดความแรงและความเร็วของสัญญาณ และใช้เป็นข้อมูลในการเปรียบเทียบ wireless router แต่ละรุ่น ครับ
ที่มา - it-computertips.com
EmoticonEmoticon